ครม. เห็นชอบ ขยายเวลายกเว้น ค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม ถึง 30 มิ.ย. 67

ครม. เห็นชอบ ขยายเวลายกเว้น ค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม ถึง 30 มิ.ย. 67

ครม. เห็นชอบ ขยายระยะเวลายกเว้น ค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม 40 บาท / ห้องพักให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม อีก 2 ปี เริ่ม 1 กรกฎาคม 2565 – 30 มิถุนายน 2567 วันที่ 5 กรกฎาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. โดยสาระสำคัญ ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมปีละ 40 บาท/ห้องพัก เป็นเวลา 2 ปีตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 65 – 30 มิถุนายน 2567 จากที่กฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2563 จะสิ้นสุดผลใช้บังคับในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมีความต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า 

แม้ปัจจุบัน จะมีมาตรการผ่อนคลายกิจการกิจกรรมหลายอย่างให้สามารถบริการได้แต่เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจต้องใช้ระยะเวลาไปอีกระยะหนึ่ง และแม้ว่ามาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมดังกล่าวจะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้เฉลี่ยประมาณปีละ 24,893,080 บาท

แต่สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมจะที่ต้องชำระ ค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรม คิดเป็นเงินจำนวน 47,354,200 บาท เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19

ผู้ชนะการประมูลจะได้รับ QR Code ผ่าน Application : G H Bank Smart NPA สำหรับติดต่อกับธนาคารเพื่อชำระเงินมัดจำตามที่ธนาคารกำหนดและทำสัญญาจะซื้อจะขายในระหว่างวันที่ 21-30 ธันวาคม 2563 และสามารถเลือกใช้โปรโมชั่นผ่อนดาวน์ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 60 เดือน หรือเทดาวน์แล้วยื่นกู้เลยก็มีสิทธิ์เลือกใช้โปรโมชั่นสินเชื่ออัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 48 เดือน (ภายใต้เงื่อนไขของมาตรการพิเศษที่ธนาคารกำหนด)

สำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิมทุกคน สามารถใช้สิทธิในวงเงินร่วมจ่ายจากรัฐตามจำนวนสิทธิคงเหลือของตนได้ถึง 31 มีนาคม 2564 แต่หากประสงค์จะได้รับวงเงินเพิ่มอีก 500 บาท ตามโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ขอให้เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยจะพบข้อความเตือน “ท่านได้รับสิทธิคนละครึ่ง ระยะที่ 2 มูลค่า 500 บาท และสามารถใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564” ซึ่งจะต้องกดปุ่ม “ยอมรับเงื่อนไขและรับสิทธิ” ก่อน จึงจะได้รับสิทธิในวงเงินส่วนเพิ่มจำนวน 500 บาท

ทั้งนี้ ด้านความคืบหน้าล่าสุดของโครงการคนละครึ่ง ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2563 เวลา 21.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1.1 ล้านร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 9,565,644 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 49,049.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 25,100.5 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 23,949.2 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา ชลบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี ตามลำดับ สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

กองสลาก ประกาศห้ามการ ขายต่อสิทธิสลากดิจิทัล หรือขายสลาก 80 เกินราคา

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศเตือนมิให้มีการดำเนินการ ขายต่อสิทธิสลากดิจิทัล หรือขายสลาก 80 เกินราคา โดยสามารถถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้

ขายต่อสิทธิสลากดิจิทัล – (5 ก.ค. 2565) พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการนำสลากดิจิทัล มาจำหน่ายต่อเกินราคาบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะซื้อสิทธิสลากดิจิทัลจากผู้อื่น ให้เพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการซื้อต่ออย่างเด็ดขาด

เพราะในระบบการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง จะบันทึกชื่อผู้ซื้อไว้อย่างชัดเจน และให้สิทธิการเป็นกรรมสิทธิของผู้ซื้อที่เป็นเจ้าของบัญชีแอปเป๋าตังเท่านั้น ดังนั้นเมื่อถูกรางวัล เงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีผู้ซื้อ ไม่สามารถโอนสิทธิเปลี่ยนมือการขึ้นรางวัลไปให้บุคคลอื่นได้ หรือกรณีหากจะมารับสลากฯ ที่สำนักงานฯ ก็จะต้องใช้ชื่อผู้ซื้อยืนยันตัวตนในการมารับสลากฯ

ดังนั้น ถ้าใครหลงเชื่อ ซื้อสลากดิจิทัลที่มีการนำมาประกาศขายต่อ หากถูกรางวัลอาจเกิดปัญหาตามได้ ซึ่งเรื่องนี้ สำนักงานสลากฯ ได้มีประกาศชัดเจน และออกมาแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนซื้อสลากดิจิทัลโดยตรงผ่านแอพเป๋าตังเท่านั้น ซึ่งระบบมีความปลอดภัย และสามารถขึ้นเงินรางวัลได้อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันสำนักงานสลากฯ ขอแจ้งเตือนผู้ที่ซื้อสลากดิจิทัล และนำไปขายสิทธิต่อให้ผู้อื่นในราคาเกินกว่าใบละ 80 บาท จะมีโอกาสถูกดำเนินคดีฐานขายสลากฯ เกินราคา ซึ่งสำนักงานสลากฯ มีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ว่าสลากฯใบนั้นใครเป็นผู้ซื้อและเป็นเจ้าของ โดยหากมีการนำไปขายต่อ หรือขายเกินราคา ก็จะดำเนินการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเปรียบเทียบปรับต่อไป

ทั้งนี้ หลังการชำระหนี้ ธ.ก.ส. จะส่งข้อความ SMS ให้เกษตรกรลูกค้าได้รับทราบเมื่อมีการโอนเงินเข้าบัญชี เงินฝากและกรณีที่เกษตรกรลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่าน LINE Official BAAC Family เช่นกัน หากเกษตรกรลูกค้าต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Call Center 02 555 0555 หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า