สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด ในประเทศ ออสเตรเลีย ยังน่ากังวล หลังจากที่ทางการพบผู้ป่วยโควิดใหม่มากสุดในรอบสัปดาห์ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ทางการรัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลียได้ประกาศว่าพบผู้ป่วยใหม่ 11 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้ป่วยใหม่ต่อวันที่มากที่สุดในรอบสัปดาห์ โดยทางการออสเตรเลียชี้แจงว่าผู้ป่วยทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์อื่นก่อนหน้านี้
ทางการออสเตรเลียระบุว่าในขณะนี้ทางการไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะทางการจะยืดระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์ทั้งรัฐหรือจะมีการผ่อนมาตรการในบางพื้นที่
ซึ่งขณะนี้รัฐวิคตอเรียได้ล็อกดาวน์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 11 วัน โดยก่อนหน้านี้ทางการออสเตรเลียยังพบโควิดกลายพันธุ์เชื้อสายเดลต้า ที่ถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศอินเดีย ซึ่งโควิดชนิดนี้สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าโควิดชนิดอื่น และทางการยังไม่สามารถถึงต้นตอของโควิดสายพันธุ์นี้
จากการค้นพบผู้ป่วยใหม่ในครั้งนี้ทำให้รัฐวิคตอเรียมียอดผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อจากในชุมชน 83 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยสะสมในประเทศออสเตรเลียมีมากกว่า 3 หมื่นราย
ประเทศออสเตรเลียได้ฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนแล้วกว่าร้อยละ 20 ของประชากรที่สามารถรับวัคซีนโควิดได้ หรือคิดเป็นราวๆ 5 ล้านโดส
ทางการ สิงค์โปร ออกมาขอโทษหลัง ฉีดวัคซีนผิดยี่ห้อ ให้กับเยาวชนอายุ 16 ปี ทั้งนี้ทางการยืนยันว่าเยาวชนคนดังกล่าวแข็งแรงดี
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่าทางการสิงคโปร์ได้ออกมาเปิดเผยว่าศูนย์วัคซีนแห่งหนึ่งได้ฉีดวัคซีนโมเดอร์นาให้กับเด็กอายุ 16 ปี ซึ่งถือเป็นวัคซีนที่ผิดยี่ห้อ เนื่องจากตามมาตรการของประเทศสิงคโปร์ระบุว่า เยาวชนอายุ 12 ปีขึ้นไป จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เพียงชนิดเดียว
โดยทางการระบุว่าจากการตรวจสอบพบว่าเกิดข้อผิดพลาดขณะกำลังทะเบียนรับวัคซีน และทำให้ฐานข้อมูลเข้าใจผิดว่าเยาวชนคนดังกล่าวมีอายุ 18 ปี และทำให้เขาสามารถเลือกรับวัคซีนโมเดอร์นาได้ ซึ่งทางการยังยอมรับอีกว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนไม่ได้ยืนยันอายุของผู้เข้ารับวัคซีน
ซึ่งหลังจากที่ทางการทราบว่าผู้รับวัคซีนมีอายุ 16 ปีก็ได้จับตาถึงผลข้างเคียงนานถึง 50 นาที อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเยาวชนคนดังกล่าวมีสุขภาพแข็งแรงดี อย่างไรก็ตามทางการจะหารือต่อไปว่าจะเลือกวัคซีนชนิดใดให้กับเยาวชนคนดังกล่าว ขณะเข้ารับวัคซีนโดสที่สอง
นอกจากนี้ทางการสิงคโปร์ยังได้ขอโทษครอบครัวของเยาวชนที่สร้างความวุ่นวายและความกังวลใจให้ และยืนยันว่าจะมีการสอบสวนให้ถี่ถ้วนเพื่อป้องกันเหตุแบบนี้ขึ้นในอนาคต จากข้อมูลการทดลองการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาในเยาวชนอายุ 12-17 ปี พบว่าวัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังไม่พบว่าผู้เข้ารับการทดลองแสดงผลข้างเคียงที่น่ากังวลแต่อย่างใด
เผย สหรัฐฯ แบ่งวัคซีนแจกนานาประเทศ สิ้นเดือน มิ.ย. มีไทยด้วย
ทำเนียบขาว เผยทางการ สหรัฐฯ มีแผน แบ่งวัคซีน ให้กับทั่วโลกในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยในรายชื่อมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย เป็นหนึ่งในประเทศเอเชียซึ่งได้โควต้า 7 ล้านโดส
แบ่งวัคซีนให้ไทย – เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เว็บไซต์ ทำเนียบขาวประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเผยแพร่เอกสารระบุว่า ทางการสหรัฐฯตั้งเป้าที่จะแบ่งวัคซีนต้านโควิดจำนวน 80 ล้านโดสให้กับนานาประเทศในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นการช่วยให้ทั่วโลกสามารถผ่านพ้นวิกฤติโควิดระบาดได้
โดยร้อยละ 75 จะแบ่งผ่านโครงการ โคแวกซ์ (COVAX) ส่วนอีกร้อยละ 25 ที่เหลือ จะเตรียมไว้สำหรับประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดที่ต้องรับความช่วยเหลือในทันที และประเทศที่ต้องการความช่วยเหลื่อจากสหรัฐโดยตรง ในเอกสารนั้นยังได้ระบุว่า ทางการจะแบ่งปันวัคซีนจำนวน 25 ล้านโดสแรกก่อน โดยในจำนวนนี้ 19 ล้านโดส จะถูกแบ่งปันผ่านกรอบความร่วมมือกับโครงการ COVAX โดยการอัตราแบ่งวัคซีนมีดังนี้
6 ล้านโดส สำหรับภูมิภาคอเมริกากลางและอเมริกาใต้ อย่างบราซิล อาร์เจนตินา โคลอมเบีย คอสตาริกา เปรู เอกวาดอร์ ปารากวัย โบลิเวีย กัวเตมาลา เอลซัลวาดอร์ ฮอนดูรัส ปานามา เฮติ และ ประเทศในแถบคาริบเบียน รวมถึงสาธารณรัฐโดมินิกัน
7 ล้านโดส สำหรับภูมิภาคเอเชีย ไปยัง เอเชีย ไปยังประเทศ อินเดีย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา อัฟกานิสถาน มัลดีฟ มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ เวียตนาม อินโดนีเซีย ไทย ลาว ปาปัว นิวกินี ไต้หวัน และประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก
และ 5 ล้านโดส ไปยังชาติในแอฟริกา ผ่านการคัดเลือกร่วมกับสหภาพแอฟริกา
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯเคยถูกกดดันอย่างหนัก ให้เข้าช่วยเหลือประเทศอินเดียหรือบราซิลที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขั้นวิกฤติ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง